RECRUITMENT

It’s all about recruitment

Close-up of Human Hand

หนังสือ 5 เล่มที่ต้องอ่าน สำหรับคนกำลังหางาน!!!

การอ่านช่วยเพิ่มมุมมองให้กับชีวิตเรานะครับ สำหรับผู้ที่กำลังหางาน ผมมีหนังสือแนะนำ 5 เล่มครับ บางเล่มผมเคยได้ยินมาบ้างครับ แต่ก็ยังไม่เคยได้อ่านซักเล่มนะครับ ผมแนบ link ของบทย่อของหนังสือแต่ละเล่มมาให้ด้วยนะครับ มาดูรายชื่อหนังสือกันเลยครับ 1. How To Win Friends and Influence People by Dale Carnegie    หนังสือเล่มนี้้ถึงแม้จะเขียนมากว่า 80 ปีแล้วนะครับ แต่เนื้อหานั้นยังสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้นะครับ ผู้เขียนนั้นให้หลักการไว้ชัดเจนครับ เช่น ทำอย่างไรให้คนชอบเราและทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนนิสัยคนอื่นโดยที่ไม่ทำให้ผู้ผู้นั้นรู้สึกแย่กับเรา 2. What Color Is Your Parachute by Richard Nelson Bolles หนังสือเล่มนี้ให้แนวคิดที่ดีนะครับ ในวิธีที่สวนทางกันระหว่างผู้หางานที่จะหาตำแหน่งงานและบริษัทที่กำลังหาพนักงาน ดังนั้นการเข้าใจวิธีที่บริษัทเค้ามองก็เป็นสิ่งที่ดีกับเราเองครับ 3. Do What You Are by Paul D. Tieger and Barbara Barron-Tieger  หนังสือเล่มนี้ผมหารายละเอียดได้เพียงจาก Amazon.com  ครับ […]

หนังสือ 5 เล่มที่ต้องอ่าน สำหรับคนกำลังหางาน!!! Read More »

Free stock photo of accountant, accounting, administration

ใบลาออก…ยกเลิกได้หรือไม่

สวัสดีครับ เมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า ที่ทำงานของเพื่อนมีพนักงานท่านหนึ่งได้ยื่นใบลาออกไปแล้วโดยยื่นเอกสารถูกต้องตามระเบียบของบริษัท ซึ่งพอหลังจากยื่นแล้วได้มีการคุยกับเพื่อนร่วมงาน แล้วไม่รู้อิท่าไหน พนักงานท่านนี้เกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากออกแล้ว คำถามที่มาถึงผมคือว่า พนักงานท่านนั้นขอยกเลิกใบลาออก ได้หรือไม่   ผมขออ้างถึงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง มีสิทธิ์เลิกสัญญาหรือโดยบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นนั้น ย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง แสดงเจตนาดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่” ดังนั้นคำตอบของคำถามนี้ (ตามหลักกฎหมาย) คือ เมื่อถึงวันที่ระบุว่าเป็นวันทำงานสุดท้ายในจดหมายลาออกนั้น พนักงานท่านนี้ก็ต้องพ้นสภาพการเป็นพนักงานทันทีครับ ที่เราเห็นกันว่า ลูกจ้างยื่นใบลาออกแล้ว เกิดเปลี่ยนใจแล้วก็ยังทำงานอยู่ได้นั้น ต้องบอกว่า นายจ้างเค้าใจดีครับ

ใบลาออก…ยกเลิกได้หรือไม่ Read More »

Person Holding Black Laptop Computer

วิธีรับความเครียดของคนที่ประสบความสำเร็จ (ตอนจบ)

เมื่อตอนที่แล้วได้แชร์ 5 วิธีแรกในการรับความเครียดของคนที่ประสบความสำเร็จ คราวนี้เรามาดูต่อกันเลยครับ (ตอนที่แล้ว: https://www.centricoutsource.com/blog/recruitment/stress_and_performance) 6. หยุดการพูดกับตัวเองในเรื่องที่กำลังเจอในแง่ร้าย ยิ่งครุ่นคิดกับเรื่องร้าย ๆ ที่กำลังเจอ เหมือนเป็นการเพิ่มความรุนแรงกับเรื่องนั้น ถ้าเราดึงสติเรากลับมาได้ทันจะพบว่าความคิดในแง่ร้ายเหล่านั้นเป็นแค่ความคิด บางเรื่องยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป 7. เปลี่ยนมุมมองความคิด พยายามตั้งสติแล้วปรับมุมมองความคิดไปในทางบวก การเขียนเรื่องที่เรากังวลออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วมาอ่านอีกที ก็เป็นวิธีที่ดี เพราะเหมือนเป็นการกระตุ้นสติ แล้วเราจะพบว่าเรื่องนั้นไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด 8. กำหนดลมหายใจ การกำหนดลมหายใจเหมือนเป็นการเปลี่ยนจุดโฟกัสจากความเครียดไปอยู่ที่ลมหายใจ ถ้าใครไม่ถนัดกำหนดลมหายใจ ก็อาจนับลมหายใจเข้าออกก็ได้ 9. คุยกับผู้ที่ยินดีรับฟังสารทุกข์สุกดิบของเรา การได้พูดคุยหรือระบายความกังวลกับผู้ทีพร้อมจะรับฟังเราเสมอนอกจากจะเป็นการช่วยระบายความเครียด เราอาจได้รับคำแนะนำดี ๆ จากเค้าเหล่านั้นด้วย 10.นอนหลับให้เพียงพอ การนอนไม่พอเป็นสาเหตุของการเพิ่มระดับฮอร์โมนของความเครียด การนอนหลับดีๆ สักคืนเหมือนเป็นการชาร์ตแบตให้กับสมองของเรา เพื่อทึ่จะตืนมาพร้อมกับความโล่งสบาย เป็นวิธีจัดการความเครียดที่ผมว่ามีประโยชน์ทีเดียวนะครับ บางทีเราอาจจะทำอยู่แล้วโดยไม่รู้ตัว บางวิธีใครที่ยังไม่เคยลองก็ไปลองใช้กันดูได้ครับ  

วิธีรับความเครียดของคนที่ประสบความสำเร็จ (ตอนจบ) Read More »

Black Calculator Near Ballpoint Pen on White Printed Paper

วิธีรับความเครียดของคนที่ประสบความสำเร็จ (ตอน 1)

ผมได้อ่านบทความเรื่องนี้ใน Linkedin แล้วเห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาแชร์ให้อ่านกันครับ บทความเรื่องนี้เกี่ยวกับการรับความเครียดของผู้ที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่ทราบกันว่าความเครียดนั้นมีผลเสียกับทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะเดียวกันความเครียดก็ไม่ใช่จะไม่มีประโยชน์ทีเดียวเพราะความเครียดที่เรามีบางทีก็เป็นตัวกระตุ้นให้เราทำงานที่เราตั้งใจให้เสร็จเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือเราจะจัดการกับความเครียดอย่างไรให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับเรา ในบทความได้พูดถึง 10 วิธีในการรับความเครียด ดังนี้ครับ 1. พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี งานวิจัยจาก University of California สนันสนุนว่าการมีความคิดเช่นนี้จะทำให้ระดับ ฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดลดลง มีผลทำให้กายและใจพร้อมที่จะทำงานมากขึ้น 2. หลีกเลี่ยงการถามตัวเองว่า “What If” บางทีการตั้งคำถามว่า จะเป็นอย่างไร ถ้า…ก็ทำให้ประสิทธิภาพในการ Focus ทางแก้ปัญหาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งลดลงไปเหมือนกัน เพราะต้องคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นและจะแก้อย่างไรนอีกหลากหลาย Scenarios 3. คิดบวก ความคิดในแง่บวกทำให้ความเครียดขาดช่วงไป ลองคิดถึงความคิดบวกในอดีดหรือในอนาคตที่กำลังจะเกิดก็ได้ครับ 4. อยู่เงียบ ๆ ซักระยะ อันนี้หลักการเดียวกับข้อที่แล้วครับ เป็นการทำให้ความเครียดขาดช่วง มีการศึกษาพบว่า การทีวันหนึ่งมีการกำหนดช่วงเวลาให้หยุดอ่านอีเมล์ (Email Brake) สามารถช่วยลดระดับความเครียดได้ครับ 5. ลดระดับคาเฟอีน การเพิ่มระดับคาเฟอีนมีผลให้เพิ่มระดับอะดรีนาลีน การเพิ่มของอะดรีนาลีนจะทำให้ตัวเราอยู่ในสภาวะ “ไม่สู้ ก็ถอย” (Fight or Flight

วิธีรับความเครียดของคนที่ประสบความสำเร็จ (ตอน 1) Read More »

4 วิธีสร้างสรรค์ในการจัดการกับพนักงานผลงานไม่ได้มาตรฐาน

  ในสมัยก่อนเมื่อพนักงานในทีมเราทำงานได้ไม่ได้มาตราฐานตามที่บริษัทตั้งไว้ เราก็อาจจ้างออก แล้วหาคนใหม่มาแทนที่ แต่ในปัจจุบัน คนที่มีความสามารถและทักษะที่เราต้องการ ก็ไม่ได้จะหาได้ง่าย ๆ และก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อได้พนักงานคนใหม่มาแทน เค้าจะสามารถทำได้ดีกว่าคนเก่าเสมอไป เพื่อที่จะลดความเสี่ยงตรงนี้ คำถามที่พวกเราควรตั้งคือ เราสามารถปรับแต่งตัวเราและพนักงานคนนี้ได้อย่างไรบ้าง ลองดูข้อแนะนำ 4ขั้นตอนที่ทางผู้เขียนแนะนำให้ทำก่อนที่จะตัดสินใจอะไรไปนะครับ 1) Identify Performance Paradoxs: เชื่อไหมครับ พนักงานบางคนไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าทำงานไม่ได้ตามมาตรฐาน เค้าไม่ได้แกล้งนะครับ แต่เพราะพวกนาย ๆ ไม่ได้ให้ Feedback กับเค้า หรือไม่ได้บอก Expectation ของงานที่มอบหมายให้ ดังนั้น รีบไปตรวจดูครับว่าลูกน้องเราเป็นอย่างนี้หรือไม่ ถ้าใช้ รีบปรับที่ตัวเราครับ 2) Set Performance Improvement Goals: ทำอะไรต้องมีเป้าหมายครับ เพื่อจะได้ประเมินผลงานกันได้ง่ายขึ้น และช่วยพนักงาน Focus ในสิ่งที่เราต้องการ แต่อย่าตั้งเป้าเยอะเกินครับ พนักงานจะเครียดซะเปล่าและที่สำคัญ เราต้องคอยให้กำลังเค้าเสมอครับ อย่าลืมครับ หนึ่งใน Fish Philosophy…..”Be there” 3)

4 วิธีสร้างสรรค์ในการจัดการกับพนักงานผลงานไม่ได้มาตรฐาน Read More »

Counter Offer ที่ดีควรทำอย่างไร

Counter Offer คือการที่ทางบริษัทเสนอสิ่งจูงใจเพื่อจะรั้งพนักงานไว้ เมื่อพนักงานรายนี้ได้โอกาสทางการงานใหม่ จากการศึกษาของ Hay Group พบว่าพนักงานทั่วโลก มีการลาออกเพิ่มขึ้น ดังนั้นการ Counter offer เพื่อเก็บคนที่มีความสามารถไว้ในองค์กร จึงเป็นสิ่งที่หลายองค์กรปฏิบัติกันเมื่อพนักงานยื่นไปลาออก คราวนี้เรามาดูกันว่าจากการศึกษา Counter Offer มันมีผลมากน้อยแค่ไหน จากการศึกษาพบว่า 50% ของพนักงานที่ได้รับ Counter Offer จะลาออกภายใน 2 ปี ซึ่งผลนี้ดันไปมีความใกล้เคียงกับอัตราการลาออกของพนักงานเข้าใหม่ในองค์กรต่าง ๆ  ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะเสียครับในการที่จะลอง Counter Offer พนักงานครับ เพราะเราก็รู้ว่ากว่าจะสอนงานกันได้ จนทำงานได้คล่องใช้เวลาไม่น้อย งั้นเรามาดูกันว่าขั้นตอน Counter Offer นั้นควรทำกันอย่างไร 1) หาเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมพนักงานจึงตัดสินใจลาออก พนักงานอาจต้องการพัฒนาทักษะการทำงานในด้านอื่น  ๆ หรือต้องการค่าตอบแทนที่มากขึ้น การที่เราไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงทำให้การ Counter offer ไม่เกิดผลดีในระยะยาว เพราะสุดท้ายพนักงานก็ไปอยู่ดี 2) หลีกเลี่ยงการเพิ่มเงินเดือนที่เกินโครงสร้างเงินเดือนของบริษัท ไม่ควรทำนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้คนอยู่เดิมหมด Motivation การทำงานได้หากทราบเรื่อง และก็เสี่ยงสำหรับการเอาข้อนี้เป็นเครื่องต่อรองอยู่เรื่อย ๆ 3)

Counter Offer ที่ดีควรทำอย่างไร Read More »

5 ข้อที่นายจ้างต้องให้ความสำคัญในการสัมภาษณ์งาน

  มีหลายกรณีที่หลังจากสัมภาษณ์งาน แล้วได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในทีมงาน แต่หลังจากเริ่มงานใหม่ได้ไม่นานก็โดนให้ออกก่อนกำหนด ซึ่งเป็นการเสียโอกาสทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง จากการศึกษาของ NBRI (The National Business Research Institute) ทีอเมริกา พบว่า การว่าจ้างโดยไม่ได้มีขั้นตอนที่รัดกุมจะก่อให้เกิดผลเสียคิดเป็นมูลค่าขั้นต่ำก็ประมาณ 25,000 USD  คิดเป็นเงินบาทเราก็หลายแสนนะครับ ดังนั้นต้องมาหาสาเหตุกันว่าทำไมการสัมภาษณ์งาน ถึงไม่ประสบความสำเร็จและหาวีธีแก้ไขกันครับ มีข้อแนะนำอยู่ 5 ประการที่ ผู้สัมภาษณ์งานควรปฏิบัติตามครับ 1) อย่าเร่งรีบจนเกินไป จากผลการศึกษาของ NBRI พบว่าสาเหตุหลักที่สุดท้ายก็ต้องเอาพนักงานออกเป็นเพราะได้ว่าจ้างคนเข้าทำงานอย่างรีบเร่ง เพื่อให้ได้ คนเข้าทำงานในตำแหน่งนั้น ๆ โดยเร็ว ทางออกที่จะหลีกเลี่ยงการว่าจ้างประจำอย่างเร่งรีบ ก็อาจจะจ้างพนักงานชั่วคราวไปก่อนหรือไม่ก็ ให้ทดลองงานจนเห็นกันไปเลยว่าถนัดกับงานที่ต้องรับผิดชอบหรือไม่ 2) ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องที่จะประเมินผล จากการสำรวจหน่วยงานราชการของสหรัฐอเมริกา (U.S. Goverment Study) พบว่าควรจะมีเรื่องที่จะประเมิณ 6 ถึง 8 ข้อ เพื่อที่จะใช้วัดความชำนาญของตำแหน่งนั้น ๆ 3) ควรมีหลักและขั้นตอนการสัมภาณ์ที่ชัดเจน จากการศึกษาพบว่า 92% ของผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ใช้รูปแบบการสัมภาษณ์พูดคุยอย่างเป็นทางการในการสัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าตรงนี้อาจจะขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละบุคคลและวัฒนธรรมขององค์กร แต่การสัมภาษณ์ที่มี

5 ข้อที่นายจ้างต้องให้ความสำคัญในการสัมภาษณ์งาน Read More »

Generation Optimization- Retaining

คราวที่แล้วเราเล่าสู่กันฟังเรื่องทคนิคในการที่จะได้พนักงานในแต่ละ Generation (1. Traditionalists 2. Baby Boomers 3.  Gen X 4. Gen Y/Millennials) มาร่วมทีม (Generation Optimazation-Recruiting) วันนี้ลองมาดูกันว่าในองค์กรของเราในยุคนี้ที่มีหลาย Generation อยู่ร่วมกัน ฝ่ายบุคคลควรมีวิธีอย่างไรในการที่รักษาคนในแต่ละ Generation Traditionalists:  Generation นี้เค้าว่ากันว่าเป็น “Silent Generation”และให้ความสำคัญกับเรื่อง “ความเคารพ”มาก Generation นี้รักเดียวใจเดียวอยู่กับองค์กรไหนก็มักจะอยู่ไปจนเกษียณ เพียงให้ความเคารพกลุ่ม Generation นี้เรื่องการรักษาพนักงานกลุ่มนี้เพื่อนำประสบการณ์ที่เค้ามีมาพัฒนาองค์กรก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป Baby Boomers:  ผู้ทำวิจัยระบุว่า ความพึงพอใจของ Generation นี้ ขึ้นอยู่กับ ความอิสระในการทำงาน นอกจากนั้น ผลประโยชน์ระยะสั้นต่าง  ๆ รวมถึงให้โอกาสในการเป็นผู้ให้คำปรึกษาพนักงานรุ่นน้อง สามารถรั้งให้เค้าอยู่กับองค์กรคุณได้นาน Gen X: Generation นี้มีความรับผิดชอบสูงต่อครอบครัว ดังนั้นเค้าต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นคงในการงาน การสร้างบรรยากาสแบบอบอุ่นแนวครอบครัว และรางวัลตอบแทนในรูปแบบที่ช่วยบรรเทาความเครียดจากการงานจะเป็นที่ชอบสำหรับ Generation นี้มาก หลายองค์กรในปัจจุบันอนุญาตให้พนักงานเข้า FB,

Generation Optimization- Retaining Read More »

Generation Optimization- Recruiting

ในปัจจุบันนี้เป็นยุคที่มีหลากหลาย Generation มาทำงานร่วมกันมากที่สุดในองค์กร ทั้ง Traditionalists, Baby Boomers,  Gen X และ Gen Y แอดมินมีเทคนิคดี ๆ ในการสรรหา,รักษา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรที่ประกอบไปด้วยหลากหลาย Generation วันนี้มาว่ากันในเรื่องของการ Recruiting หรือการสรรหาคัดเลือกหาคนมาร่วมทีมกันก่อนนะครับ Recruiting (การสรรหาพนักงาน) Traditionalists:  พนักงานในกลุ่มนี้ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยี ดังนั้นในการหาคนกลุ่มนี้มาร่วมทีมต้องลงประกาศทางหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็ใช้วิธีให้คนรู้จักแนะนำกัน Baby Boomers:  สิ่งที่ดึงดูดคนกลุ่มนี้คือ ความมั่นคงทางการเงิน พร้อมกับ ผลประโยชน์ดี ๆ ที่บริษัทนำเสนอเช่น ประกันสุขภาพระดับ premium เป็นต้น Gen X:  Generation นี้ ให้ความสำคัญกับ Image ของบริษัท ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องความมั่นคง แต่แนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรต้องสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินชีวิตและความเชื่อของกลุ่ม Gen X Millennials:  สื่อ online ต่าง ๆ ทุกช่องทางต้องมีทุกช่องทางเพื่อดึงดูดคนกลุ่มนี้ ผู้ทำวิจัยแนะนำว่า การให้

Generation Optimization- Recruiting Read More »

พนักงาน 3 ประเภทในองค์กร แล้วพวกเราคือประเภทไหน

จากการสำรวจความคิดเห็นจากคนอเมริกัน 25 ล้านคนจากหลายร้อยองค์กร (the 2013 State of the American Workplace Report จัดทำโดย by Gallup) ได้ผลลัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเภทของพนักงานในองค์กร ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ 1) Engaged Employees 2) Disengaged Employees 3) Actively Disengaged Employees Engaged Employees:  พนักงานที่มีความสุขและความรู้สึกที่ดีให้กับองค์กร พร้อมที่จะเอาตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาองค์กร Disengaged Employees: มองง่าย ๆ ก็คือพนักงานที่ำทำงานไปวัน ๆ ครบเวลาทำงานก็กลับบ้าน จะว่าไปมาก็เพื่อลงบันทึกเวลาทำงานแค่นั้น Actively Disengaged Employees:  คือกลุ่มที่พร้อมจะบ่นและต่อว่าบริษัทที่ตัวเองทำงานอย่างออกหน้าออกตา ว่าง่าย ๆ ก็คือคนละขั้วกับ Engaged Employees อย่างสิ้นเชิง มากไปกว่านั้นจากพนักงานจำนวน 100 ล้านคนในอเมริกาพบว่า มีเพียงแค่ 30%

พนักงาน 3 ประเภทในองค์กร แล้วพวกเราคือประเภทไหน Read More »

thThai
Scroll to Top